ล้อยูรีเทน
ขนาดสินค้า : ล้อยูรีเทน


วัสดุการผลิต
ล้อ : ผลิตจากพลาสติกชนิดหนึ่ง ซึ่งเกิดจากสารประกอบโพลียูรีเทน
ฐานลูกล้อ : ทำจากเหล็ก ชุบดำ

ขนาดล้อ
3″ 4″ 5″

สีล้อ
สีส้ม

ฐานยึดลูกล้อ
แป้นหมุน / แป้นตาย

ขนาดฐานแป้น
ล้อขนาด 3 – 5 นิ้ว : 85 x 107 มิลลิเมตร

ความกว้างของล้อ
30 มิลลิเมตร

ความสูงของล้อ
105 – 115 มิลลิเมตร

การรับน้ำหนัก
70 – 100 กิโลกรัม
รายละเอียดสินค้า
ล้อยูรีเทน (polyurethane-wheels) เป็นทางเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการใช้งานที่ต้องการความทนทานและประสิทธิภาพสูง ผลิตจากวัสดุยูรีเทนคุณภาพเยี่ยมที่มีความแข็งแรงและยืดหยุ่น ทำให้สามารถรองรับน้ำหนักได้มากและทนทานต่อการสึกหรอได้ดีกว่ายางทั่วไป ล้อยูรีเทนสามารถดูดซับแรงกระแทกได้ดี ช่วยให้การเคลื่อนที่นุ่มนวลและเงียบ ลดเสียงรบกวนในขณะใช้งาน นอกจากนี้ยังทนทานต่อสารเคมี น้ำมัน และสภาพแวดล้อมที่มีความรุนแรง ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรม คลังสินค้า และพื้นที่ก่อสร้าง
ล้อยูรีเทน ขาเป็น (แป้นหมุน) ล้อยูรีเทน ขาตาย (แป้นตาย)
1.ล้อยูรีเทน ขาเป็น (แป้นหมุน)
- ล้อยูรีเทนขาเป็น หมุนได้ 360องศา
- ฐานล้อแบบแป้น ทำจากเหล็ก ชุบดำ
- ลูกล้อ โพลียูรีเทน
- ขนาดลูกล้อยาง ขาเป็นที่จัดจำหน่าย
-
- ล้อยูรีเทน 3 นิ้ว ขาเป็น
- ล้อยูรีเทน 4 นิ้ว ขาเป็น
- ล้อยูรีเทน 5 นิ้ว ขาเป็น

ล้อยูรีเทน ขาเป็น แป้นหมุน
3″ 4″ 5″

1.ล้อยูรีเทน ขาตาย (แป้นหมุนไม่ได้)
- ล้อเหล็กขาตาย ล้อจะหมุนไม่ได้
- ฐานล้อแบบแป้น ทำจากเหล็ก ชุบดำ
- ลูกล้อ โพลียูรีเทน
- ขนาดลูกล้อยาง ขาเป็นที่จัดจำหน่าย
- ล้อยูรีเทน 3 นิ้ว ขาตาย
- ล้อยูรีเทน 4 นิ้ว ขาตาย
- ล้อยูรีเทน 5 นิ้ว ขาตาย

ล้อยูรีเทน ขาตาย แป้นหมุน
3″ 4″ 5″

ตารางแสดง รายละเอียดของล้อยูรีเทน

ขนาดล้อ (นิ้ว)
W (mm)
H (mm)
A1 x B1 (mm)
A2 x B2 (mm)
การรับน้ำหนัก (kg)
3″
30
105
85 X 107
60 x 80
70
4″
30
125
85 X 107
60 x 80
90
5″
30
125
85 X 107
60 x 80
100



“ล้อยูรีเทน” มีลักษณะที่สำคัญและจุดเด่นหลายประการ ดังนี้

ลักษณะสำคัญ
- ความแข็งแรงและทนทานสูง: ยูรีเทนเป็นวัสดุที่มีความแข็งแรงสูง ทำให้ลูกล้อยูรีเทนสามารถรับน้ำหนักได้มากและทนทานต่อการสึกหรอได้ดี ไม่เสียรูปง่ายแม้ใช้งานหนัก
- ความยืดหยุ่น: ลูกล้อยูรีเทนมีความยืดหยุ่นที่ดี ช่วยในการดูดซับแรงกระแทก ทำให้การเคลื่อนที่นุ่มนวล ลดแรงสะเทือนและการสั่นสะเทือน
- ทนต่อสารเคมีและน้ำมัน: ยูรีเทนมีความทนทานต่อสารเคมี น้ำมัน และสารกัดกร่อนได้ดี ทำให้ลูกล้อยูรีเทนเหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีสารเคมีหรือน้ำมัน
- การยึดเกาะพื้นผิว: ลูกล้อยูรีเทนสามารถยึดเกาะพื้นผิวได้ดีบนพื้นหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นพื้นเรียบ พื้นขรุขระ หรือพื้นที่เปียก
- ทนต่ออุณหภูมิ: ยูรีเทนสามารถทนต่ออุณหภูมิที่แตกต่างกันได้ดี ไม่ละลายหรือแตกหักง่ายเมื่อเจอกับความร้อนหรือเย็น

จุดเด่น
- ลดเสียงรบกวน: เนื่องจากความยืดหยุ่นและการดูดซับแรงกระแทก ลูกล้อยูรีเทนช่วยลดเสียงรบกวนในการเคลื่อนที่ ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในสถานที่ที่ต้องการความเงียบ เช่น โรงพยาบาลหรือสำนักงาน
- ใช้งานได้หลากหลาย: ลูกล้อยูรีเทนสามารถใช้งานได้ทั้งในพื้นที่ภายในอาคารและกลางแจ้ง เหมาะสำหรับการใช้งานในโรงงาน คลังสินค้า หรือบนพื้นผิวที่หลากหลาย
- ไม่ทำให้พื้นผิวเสียหาย: ยูรีเทนเป็นวัสดุที่นุ่มและยืดหยุ่น จึงไม่ทำให้พื้นผิวเสียหายหรือเกิดรอยขีดข่วนขณะใช้งาน เหมาะสำหรับการใช้บนพื้นกระเบื้อง พื้นไม้ หรือพื้นผิวที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ
- อายุการใช้งานยาวนาน: ด้วยความทนทานต่อน้ำมัน สารเคมี และการสึกหรอ ลูกล้อยูรีเทนจึงมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ลดความจำเป็นในการเปลี่ยนล้อบ่อยครั้ง
- ความปลอดภัยในการใช้งาน: ลูกล้อยูรีเทนมีความปลอดภัยสูงในการใช้งาน เนื่องจากทนทานต่อการแตกหัก และไม่ทิ้งเศษวัสดุที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้งาน
การคำนวนน้ำหนักลูกล้อยูรีเทน

ขั้นตอนการคำนวนน้ำหนักลูกล้อยูรีเทนแบบแป้น
1.คำนวนน้ำหนักรวมของรถเข็นและสินค้า (Total Weight)
- คำนวณน้ำหนักรวมของรถเข็นที่ต้องการติดตั้งลูกล้อ รวมถึงน้ำหนักของสินค้าหรือวัตถุที่จะบรรทุก
- ตัวอย่าง: น้ำหนักของตัวรถเข็นคือ 50 กิโลกรัม และน้ำหนักของสินค้าที่บรรทุกคือ 200 กิโลกรัม ดังนั้นน้ำหนักรวม = 50 + 200 = 250 กิโลกรัม
2.แบ่งน้ำหนักตามจำนวนลูกล้อ (Weight Distribution)
- กำหนดจำนวนลูกล้อที่ใช้ติดตั้งกับรถเข็น เช่น ใช้ลูกล้อ 4 ตัว
- หากน้ำหนักถูกกระจายอย่างเท่าเทียมกัน ให้แบ่งน้ำหนักรวมด้วยจำนวนลูกล้อทั้งหมด
- ในตัวอย่างนี้ น้ำหนักที่ลูกล้อแต่ละตัวต้องรับ = 250 กิโลกรัม ÷ 4 = 62.5 กิโลกรัม ต่อลูกล้อ
3.พิจารณาการกระจายน้ำหนัก (Weight Distribution Considerations)
- หากน้ำหนักไม่ได้กระจายอย่างเท่าเทียมกัน เช่น หากรถเข็นมีการกระจายน้ำหนักที่ไม่สมดุล ให้คำนวณน้ำหนักตามสัดส่วนนี้
- ตัวอย่าง: หากน้ำหนักกระจายไปที่ลูกล้อหน้า 60% และลูกล้อหลัง 40%:
- น้ำหนักที่ลูกล้อหน้าต้องรับ = 250 กิโลกรัม × 60% = 150 กิโลกรัม
- น้ำหนักต่อลูกล้อหน้าแต่ละตัว = 150 กิโลกรัม ÷ 2 = 75 กิโลกรัม ต่อลูกล้อ
- น้ำหนักที่ลูกล้อหลังต้องรับ = 250 กิโลกรัม × 40% = 100 กิโลกรัม
- น้ำหนักต่อลูกล้อหลังแต่ละตัว = 100 กิโลกรัม ÷ 2 = 50 กิโลกรัม ต่อลูกล้อ
4.เลือกใช้ลูกล้อที่เหมาะสม
- หลังจากคำนวนน้ำหนักที่ลูกล้อแต่ละตัวต้องรับแล้ว ให้เลือกใช้ลูกล้อยูรีเทนที่มีความสามารถในการรับน้ำหนักสูงกว่าที่คำนวณได้เพื่อเพิ่มความปลอดภัย
- ควรเผื่อความสามารถในการรับน้ำหนักของลูกล้อไว้ประมาณ 20-30% ของน้ำหนักที่คำนวณได้เพื่อความมั่นใจและการใช้งานที่ยาวนาน
ตัวอย่างการคำนวนน้ำหนักลูกล้อยูรีเทน
- หากมีรถเข็นที่ต้องติดตั้งลูกล้อ 4 ตัว และน้ำหนักรวมของรถเข็นและสินค้าที่บรรทุกคือ 300 กิโลกรัม:น้ำหนักต่อลูกล้อ = 300 กิโลกรัม ÷ 4 = 75 กิโลกรัม ต่อลูกล้อ
- ดังนั้น คุณควรเลือกใช้ลูกล้อยูรีเทนที่สามารถรับน้ำหนักได้อย่างน้อย 90-100 กิโลกรัม ต่อลูกล้อ เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการใช้งาน
การคำนวนน้ำหนักที่ลูกล้อต้องรับอย่างถูกต้องจะช่วยให้คุณเลือกใช้ลูกล้อยูรีเทนที่เหมาะสม ซึ่งจะทำให้การเคลื่อนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด
การประยุกต์ใช้งาน ล้อยูรีเทน
“ล้อยูรีเทน” มีการประยุกต์ใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรมและสภาพแวดล้อม เนื่องจากคุณสมบัติเด่นที่ทนทาน ยืดหยุ่น และสามารถรับน้ำหนักได้มาก
1. อุตสาหกรรมและการขนส่ง
- รถเข็นในโรงงานและคลังสินค้า : ล้อยูรีเทนถูกใช้ในรถเข็นที่ต้องการความทนทานและการรับน้ำหนักสูง เช่น การขนย้ายสินค้าในโรงงานและคลังสินค้า เนื่องจากทนต่อการสึกหรอและแรงกระแทกได้ดี
- รถยกพาเลท : ใช้ล้อยูรีเทนในรถยกพาเลทที่ต้องเคลื่อนย้ายพาเลทหนักในพื้นที่เรียบหรือขรุขระ เพราะล้อยูรีเทนไม่ทำให้พื้นผิวเสียหายและมีการยึดเกาะที่ดี
2. อุตสาหกรรมการแพทย์
- อุปกรณ์การแพทย์เคลื่อนที่ : ล้อยูรีเทนเหมาะสำหรับใช้ในอุปกรณ์การแพทย์เคลื่อนที่ เช่น เตียงผู้ป่วย รถเข็นผู้ป่วย และอุปกรณ์การแพทย์อื่น ๆ เนื่องจากเคลื่อนที่ได้เงียบและลดแรงสั่นสะเทือน
- รถเข็นในโรงพยาบาล : เนื่องจากคุณสมบัติการลดเสียงรบกวนและไม่ทิ้งรอยบนพื้น ล้อยูรีเทนจึงเหมาะสำหรับการใช้งานในโรงพยาบาล
3. อุตสาหกรรมการผลิตและก่อสร้าง
- เครื่องจักรเคลื่อนที่และอุปกรณ์หนัก : ล้อยูรีเทนถูกใช้ในเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ต้องการความทนทานและสามารถรับน้ำหนักได้มาก เช่น เครื่องจักรในสายการผลิต
- รถเข็นปูนและวัสดุก่อสร้าง : ล้อยูรีเทนทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น ฝุ่น น้ำ และสารเคมี จึงถูกนำมาใช้ในงานก่อสร้างที่ต้องการล้อที่แข็งแรงและทนทาน
4. อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม
- อุปกรณ์ขนส่งในโรงงานอาหาร : ล้อยูรีเทนทนต่อสารเคมีและน้ำมันได้ดี จึงเหมาะสำหรับการใช้งานในโรงงานผลิตอาหารและเครื่องดื่มที่มีสภาพแวดล้อมเฉพาะ
- รถเข็นในครัวและห้องเย็น : เนื่องจากล้อยูรีเทนไม่แข็งตัวที่อุณหภูมิต่ำ จึงเหมาะสำหรับการใช้งานในห้องเย็นหรือสถานที่ที่มีความชื้นสูง
5. งานขนส่งสินค้าและการขนย้าย
- การขนย้ายสินค้าในท่าเรือและท่าอากาศยาน : ล้อยูรีเทนถูกใช้ในอุปกรณ์ขนย้ายสินค้าที่ท่าเรือและท่าอากาศยาน เพราะทนต่อการสึกหรอและแรงกระแทกสูง อีกทั้งยังไม่ทำให้พื้นผิวเกิดความเสียหาย
- อุปกรณ์ขนย้ายในคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้า : ล้อยูรีเทนถูกเลือกใช้ในอุปกรณ์ขนย้ายที่ต้องการความทนทานและการรับน้ำหนักสูง เช่น รถยก รถเข็น และแท่นขนย้ายสินค้า
6. การใช้ในครัวเรือนและสำนักงาน
- เฟอร์นิเจอร์เคลื่อนที่ : ล้อยูรีเทนใช้ในเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการการเคลื่อนย้ายบ่อย ๆ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ และตู้ เนื่องจากเคลื่อนที่ได้เงียบและไม่ทำให้พื้นเป็นรอย
- อุปกรณ์สำนักงาน : ล้อยูรีเทนถูกใช้ในอุปกรณ์สำนักงานที่ต้องการความเงียบและไม่ทำให้พื้นเสียหาย เช่น เก้าอี้สำนักงานและรถเข็นเอกสาร
7. การใช้งานในพื้นที่เฉพาะ
- พื้นที่ที่ต้องการความเงียบ : ล้อยูรีเทนเหมาะสำหรับการใช้งานในสถานที่ที่ต้องการความเงียบ เช่น ห้องสมุด โรงแรม หรือห้องประชุม
- พื้นที่ที่มีสารเคมีหรือน้ำมัน : ล้อยูรีเทนทนทานต่อสารเคมีและน้ำมัน ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีในสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรมที่ต้องเจอกับสารเคมีบ่อยครั้ง
ล้อยูรีเทนเป็นอุปกรณ์ที่มีความหลากหลายในการใช้งาน เนื่องจากทนทาน ยืดหยุ่น และมีความสามารถในการรับน้ำหนักสูง


Reviews
There are no reviews yet.