พลาสติกใส ที่ใช้อยู่ในท้องตลาด โดยทั่วไปจะมีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่
- พลาสติกใสเนื้อพีอี (PE) หรือ พลาสติกกันชื้นสีขาวขุ่น (คลิกดูรายละเอียด พลาสติกกันชื้น ที่นี่)
- พลาสติกใสเนื้อพีวีซี (PVC) หรือ พลาสติกใส (คลิกดูรายละเอียด พลาสติกใส ที่นี่)
พลาสติกทั้ง 2 ประเภท สามารถนำมาใช้ทดแทนกันได้ ไม่ว่าจะเป็นการนำมาใช้ห่อหุ้มสินค้ากันรอยขีดข่วน นำมาใช้ปูรองพื้นก่อนเทคอนกรีต หรือใช้พลาสติกใสทำฉากกั้น ซึ่งความแตกต่างพลาสติก ทั้ง 2 ประเภทนี้ จะมีจุดสำคัญอยู่ 3 ข้อ ได้แก่
- วัตถุดิบหลัก
- พลาสติกใส : ผลิตจากเม็ดพลาสติก PVC
- พลาสติกกันชื้นสีขาวขุ่น : ผลิตจากเม็ดพลาสติก PE
- ความโปร่งใสของเนื้อพลาสติก
- พลาสติกใส : เนื้อพลาสติกมีความใส สามารถมองทะลุได้ชัดเจน
- พลาสติกกันชื้นสีขาวขุ่น : เนื้อพลาสติกมีลักษณะใสขุ่น ไม่สามารถมองทะลุได้อย่างชัดเจน
- ขนาดสินค้า
- พลาสติกใส : มีขนาดความกว้างไม่เกิน 1.9เมตร ความยาวสูงสุดไม่เกิน 80เมตร
- พลาสติกกันชื้นสีขาวขุ่น : มีหน้ากว้างตั้งแต่ 1.5 ถึง 2.0เมตร ความยาวสูงสุดที่ 300เมตร
พลาสติกใสเป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในหลากหลายอุตสาหกรรมและการใช้งานทั่วไป ที่ต้องการวัสดุคุณภาพสูงสำหรับงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่วไป การใช้งานในโครงการขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ รวมถึงหน่วยงานราชการ ส่วนพลาสติกใสที่นิยมใช้งานและพบมากจะมีอยู่สองประเภทหลักๆ ก็คือ พลาสติกเนื้อ PE (Polyethylene) และพลาสติกเนื้อ PVC (Polyvinyl Chloride) ซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนี้
พลาสติกใสเนื้อ PE (Polyethylene)
คุณสมบัติเด่น มีดังนี้
-
- เนื้อพลาสติกมีสีขาวขุ่นเกือบใส
- PE เป็นพลาสติกที่มีโครงสร้างโมเลกุลเรียงตัวแน่น ทำให้มีความเหนียวและยืดหยุ่นสูง
- สามารถทนต่อกรดและด่าง รวมถึงสารเคมีทั่วไปได้ดี
- มีอัตราการดูดซึมน้ำที่ต่ำ ป้องกันการซึมผ่านของของเหลวได้ดี
- เนื้อพลาสติก PE มีคุณสมบัติไม่เกาะติดกันเมื่อจัดเก็บเป็นม้วน ทำให้สะดวกต่อการใช้งานในปริมาณมาก
- PE มีน้ำหนักเบา จึงสามารถขนย้ายและติดตั้งได้สะดวก
- ทนต่อความเย็นและความร้อนได้ในระดับหนึ่ง โดยไม่เสื่อมสภาพง่าย
- มีความความหนาตั้งแต่ 0.04 – 0.30 มิลลิเมตร
การใช้งานที่แนะนำ
-
- ใช้ปูพื้นก่อนเทคอนกรีต ช่วยป้องกันความชื้นจากดินที่อาจส่งผลกระทบต่อโครงสร้างของคอนกรีต
- ใช้พันหุ้มเสาคอนกรีต ในขั้นตอนการบ่มคอนกรีต
- ใช้ปูพื้นเพื่อกันความชื้น ในห้องโกดัง ไม่ไม่ต้องการให้มีความชื้น เช่น โกดังน้ำตาล โกดังข้าว
- ใช้บุผนังตู้คอนเทนเนอร์ ทำให้สามารถทำความสะอาดได้ง่าย และประหยัดค่าใช้จ่าย
- ใช้สำหรับป้องกันฝุ่น น้ำ และความชื้น เหมาะสำหรับบรรจุภัณฑ์สินค้า
- ใช้ปูรองดินในแปลงปลูกพืชเพื่อควบคุมความชื้นและป้องกันวัชพืช
พลาสติกใสเนื้อ PVC (Polyvinyl Chloride)
คุณสมบัติเด่น
-
- พลาสติกมีความโปร่งใสมาก ทำให้สามารถมองทะลุผ่านได้ชัดเจน
- PVC มีโครงสร้างโมเลกุลที่แข็งแรง ทนต่อแรงดึง การกัดกร่อนและแรงขัดถูได้ดี
- ทนต่อสารเคมีได้หลากหลายชนิด เช่น กรด ด่าง และน้ำมัน
- PVC มีคุณสมบัติในการกันน้ำและกันฝุ่น
- ด้วยคุณสมบัติที่ไม่ซึมน้ำ พลาสติก PVC จึงช่วยลดโอกาสการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรีย
- มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ เช่น ความชื้นและความร้อน ทำให้ใช้งานได้นานโดยไม่เสื่อมสภาพง่าย ไม่เสียรูปง่ายเมื่อเจอความร้อนในระดับปกติ
การใช้งานที่แนะนำ
-
- ใช้ทำฉากกั้นพื้นที่หรือม่านพลาสติกในโรงงาน โรงพยาบาล และสำนักงาน
- ใช้ในงานตกแต่งภายใน เช่น ทำแผ่นปิดผิวเฟอร์นิเจอร์ หน้าต่างปลอม หรือแผงฉลุ
- ใช้ทำกล่องหรือห่อหุ้มสินค้า เช่น ของขวัญ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
- ใช้ทำแผ่นกันน้ำในโครงสร้าง เช่น ผนังหรือกันสาด
- ใช้ผลิตเป็นแผ่นรอง พื้นผิวงาน หรือส่วนประกอบของเครื่องจักร
- ห่อหุ้มสิ่งของเพื่อกันฝุ่นและน้ำ เช่น ห่อหนังสือ พลาสติกปูโต๊ะ
- ใช้ห่อบ่มเสาร์คอนกรีต
การเลือกใช้พลาสติกใสให้เหมาะสม
1.งานที่ต้องการความยืดหยุ่นและเหนียวแน่น:
- เลือกใช้ พลาสติกใสเนื้อ PE เพราะมีความยืดหยุ่นและความเหนียวสูง ไม่ฉีกขาดง่าย ทนต่อแรงดึงและแรงกระแทก เช่น
- การปูพื้นก่อนเทคอนกรีต
- ห่อหุ้มสิ่งของหรือสินค้า
- ใช้ในงานเกษตรกรรม เช่น การคลุมดินหรือแปลงปลูกพืช
2.งานที่ต้องการความโปร่งใสและความแข็งแรง:
- เลือกใช้ พลาสติกใสเนื้อ PVC เพราะเนื้อใส แข็งแรง และทนทานต่อการขีดข่วน เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความสวยงาม เช่น
- ฉากกั้นหรือม่านพลาสติกใส
- งานตกแต่งภายในหรือทำป้ายโฆษณา
- บรรจุภัณฑ์ที่ต้องการความสวยงาม เพิ่มมูลค่า
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและการสั่งซื้อ สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราได้ที่: www.taokaeonline.net
• พลาสติกกันชื้น เนื้อ PE: คลิกที่นี่
• พลาสติกใส เนื้อ PVC: คลิกที่นี่
