เสื้อชูชีพ
ขนาดสินค้า : เสื้อชูชีพ


วัสดุ
- วัสดุด้านใน เป็นโฟมโพลีเอทธีลีน หนา 2.5 ซม.
- วัสดุที่หุ้ม เป็นผ้าไนลอน

ขนาดเสื้อชูชีพ
- รอบอก ก่อนขยาย 36 นิ้ว
- รอบอก ขยายได้ถึง 46 นิ้ว
- ความสูง 22 นิ้ว
- ความหนา โดยรวม 5 ซม.

การรับน้ำหนัก
สามารถรับน้ำหนักได้สูงสุด 90 กิโลกรัม

สี
สีส้ม

อุปกรณ์เสริมที่ติดกับตัวเสื้อ
- นกหวีด
- สายรั้งเป้า
รายละเอียดสินค้า

ขนาดของเสื้อชูชีพ
- ขนาดตัวเสื้อเป็น size L
- รอบอก ก่อนขยาย 36 นิ้ว สามารถขยายได้ถึง 46 นิ้ว
- เนื้อโฟมมีความหนา 2.5 ซม.
- หุ้มดด้วยผ้าไนลอน เกรดหนา ที่ไม่ขาดหลุดรุ่ยง่าย
- มีน้ำหนักเบา แห้งง่าย ไม่ขึ้นรา
- สามารถรับน้ำหนักได้สูงสุด 90 กิโลกรัม
สายรัด วัสดุคุณภาพดี เนื้อหนา กว้าง 2.5 ซม.
ตัวล็อก ทำจากพลาสติกแข็งแรงพิเศษ กว้าง 3.5 ซม. หนา 1 ซม.
นกหวีด
สำหรับเป่าขอความช่วยเหลือ กรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน
มีนกหวีดยึดติดกับเสื้อชูชีพทุกตัว
ยึดติดกับตัวเสื้ออย่างแน่นหนา
ติดกับตัวเสื้อในระดับอกด้านซ้าย
มีกระเป๋าสำหรับเก็บนกหวีด
สามารถเป่าขณะเปียกน้ำได้


สายรัดด้านหน้า
สายรัดด้านหน้าผลิตจากวัสดุคุณภาพดี
หัวล็อคแน่น แข็งแรง
สายรัด 3 ระดับ ช่วยเพิ่มความมั่นใจขณะสวมใส่
ปรับระดับความกระชับได้
สายรัดขา
สายรัดขาเพื่อยึดไม่ให้ตัวผู้สวมใส่ลอยหลุดออกมาจากเสื้อชูชีพ
ช่วยให้เสื้อไม่ลอยไปรั้งคอผู้สวมใส่
ปรับความแน่นได้ ใช้งานง่าย
หัวล็อคแข็งแรงทั้งด้านหน้าและด้านหลัง


ความสำคัญของเสื้อชูชีพ
การสวมเสื้อชูชีพมีความสำคัญมากเมื่ออยู่ในน้ำหรือทำกิจกรรมทางน้ำ เนื่องจากช่วยเพิ่มความปลอดภัย
- เสื้อชูชีพช่วยป้องกันการจมน้ำ จะทำหน้าที่ช่วยพยุงร่างกายให้ลอยอยู่เหนือน้ำได้ ในช่วงที่เหนื่อยหรืออ่อนแรง
- ช่วยเพิ่มโอกาสการรอดชีวิต หากเกิดอุบัติเหตุทางน้ำหรือคลื่นแรง เสื้อชูชีพจะช่วยเพิ่มเวลาในการรอการช่วยเหลือ
- เป็นตัวช่วยสำหรับคนที่ว่ายน้ำไม่เป็น หรือคนที่มีปัญหาสุขภาพ ให้สามารถลอยในน้ำได้

ข้อมูลทั่วไป
เสื้อชูชีพเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมากในการป้องกันการจมน้ำและเพิ่มความปลอดภัยในกิจกรรมทางน้ำ นี่คือข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับเสื้อชูชีพ
- เสื้อชูชีพมาตรฐาน: ออกแบบมาเพื่อช่วยชีวิตโดยเฉพาะ มีปกหรือแผงคอที่ช่วยพลิกตัวผู้สวมใส่ให้หน้าขึ้นเหนือน้ำแม้ว่าจะหมดสติ
- เสื้อชูชีพแบบพองลม: เหมาะกับกิจกรรมที่ต้องการความคล่องตัวสูง เช่น การพายเรือคายัค หรือการเล่นเจ็ตสกี เสื้อชนิดนี้จะพองลมเมื่อสัมผัสน้ำหรือเมื่อผู้สวมใส่กระตุกเชือก
การเลือกเสื้อชูชีพ
- ควรเลือกเสื้อชูชีพที่เหมาะสมกับน้ำหนักและขนาดตัวของผู้สวมใส่ เพื่อให้เสื้อกระชับและไม่หลุดออกจากตัวเมื่ออยู่ในน้ำ
- ควรตรวจสอบแรงลอยตัวของเสื้อชูชีพให้เหมาะสมกับกิจกรรมที่ทำ เช่น การล่องเรือในทะเลเปิดควรใช้เสื้อชูชีพที่มีแรงลอยตัวสูงกว่า
การใช้งาน
- การสวมใส่เสื้อชูชีพทุกครั้งที่ทำกิจกรรมทางน้ำจะช่วยลดความเสี่ยงในการจมน้ำ ไม่ว่าจะกับผู้ที่ว่ายน้ำเป็นหรือไม่เป็น
- ควรตรวจสอบสภาพของเสื้อชูชีพก่อนใช้งานทุกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีความเสียหายหรือชำรุด

การประยุกต์ใช้งาน
เสื้อชูชีพมีการประยุกต์ใช้งานหลากหลายรูปแบบเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในกิจกรรมทางน้ำ นี่คือบางตัวอย่างของการประยุกต์ใช้งานเสื้อชูชีพ
- การเดินทางทางน้ำ: เสื้อชูชีพเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการเดินทางทางน้ำ เช่น การล่องเรือ, การพายเรือคายัค, และการท่องเที่ยวทางน้ำ เพื่อป้องกันการจมน้ำในกรณีเกิดอุบัติเหตุ
- กีฬาทางน้ำ: การเล่นกีฬาทางน้ำ เช่น การเล่นเจ็ตสกี, การเล่นเซิร์ฟบอร์ด, และการล่องแก่ง จำเป็นต้องสวมเสื้อชูชีพเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยงในการจมน้ำ
- การฝึกว่ายน้ำ: สำหรับผู้ที่เพิ่งหัดว่ายน้ำ การสวมเสื้อชูชีพช่วยเพิ่มความมั่นใจและลดความกลัว ทำให้การฝึกว่ายน้ำเป็นไปได้ง่ายขึ้น
- การช่วยเหลือในสถานการณ์ฉุกเฉิน: เสื้อชูชีพบางรุ่นมีอุปกรณ์เสริม เช่น นกหวีด, ไฟฉาย, และอุปกรณ์ยังชีพอื่น ๆ ที่ช่วยในกรณีฉุกเฉิน เช่น การช่วยเหลือผู้ที่ตกน้ำหรือเกิดอุบัติเหตุทางน้ำ
- การใช้งานในเครื่องบิน: เสื้อชูชีพถูกติดตั้งในเครื่องบินเพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉิน เช่น การลงจอดฉุกเฉินในน้ำ เพื่อให้ผู้โดยสารและลูกเรือสามารถลอยตัวอยู่ในน้ำได้อย่างปลอดภัย
การเลือกเสื้อชูชีพที่เหมาะสมกับกิจกรรมและสภาพแวดล้อมจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทางน้ำได้อย่างมาก
Reviews
There are no reviews yet.