ลูก
ล้อเหล็ก
ขนาดสินค้า : ล้อเหล็ก


วัสดุการผลิต
ทำจากเหล็ก มีความทนทานแข็งแรงทนทานสูง

ขนาดล้อ
3″ 4″ 5″ 6″ 8″

ฐานยึดลูกล้อ
แป้นหมุน / แป้นตาย

ขนาดฐานแป้น
- ล้อขนาด 3 – 5 นิ้ว : 85 x 107 มิลลิเมตร
- ล้อขนาด 6 – 8 นิ้ว : 110 x 135 มิลลิเมตร

ความกว้างของล้อ
32 – 42 มิลลิเมตร

ความสูงของล้อ
105 – 230 มิลลิเมตร

การรับน้ำหนัก
70 – 205 กิโลกรัม
รายละเอียดสินค้า
ล้อเหล็ก (Steel Wheel) เป็นล้อที่ทำจากเหล็ก มีความทนทานแข็งแรงทนทานสูง มีความแข็งแรงสูง ทนทานต่อการใช้งานหนักและการสึกหรอ เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีการกระแทกหรือการรับน้ำหนักมาก สามารถทนต่อความร้อนได้ดี ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูง นิยมเอาไปล้อเหล็กใช้งานกับเครื่องจักรในอุตสาหกรรม และอุปกรณ์ขนส่งต่างๆ ล้อเหล็กที่มีจำหน่าย ได้แก่

ล้อเหล็ก ขาเป็น แป้นหมุน
3″ 4″ 5″ 6″ 8″


ล้อเหล็ก ขาตาย แป้นหมุน
3″ 4″ 5″ 6″ 8″

ตารางแสดง รายละเอียดของล้อเหล็ก

ความหนา
ความกว้าง
ความยาว
บรรจุ
15
50
240 , 300
6/กล่อง
17
50
240 , 300
6/กล่อง
20
50
240 , 300
6/กล่อง


“ล้อเหล็ก” มีลักษณะที่สำคัญและจุดเด่นหลายประการ ดังนี้

ลักษณะสำคัญ
- ความทนทานสูง: ลูกล้อเหล็กทำจากวัสดุที่แข็งแรงและทนทาน ทำให้สามารถรับน้ำหนักได้มาก และทนต่อการสึกหรอจากการใช้งานหนัก
- ความทนทานต่ออุณหภูมิ: ลูกล้อเหล็กสามารถทนต่ออุณหภูมิสูงและต่ำได้ดี จึงเหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิเปลี่ยนแปลง
- ความต้านทานต่อสารเคมี: ลูกล้อเหล็กสามารถทนต่อสารเคมีได้มากกว่าลูกล้อที่ทำจากวัสดุอื่น ๆ ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรมหรือสถานที่ที่มีสารเคมี
- ความเสถียรในการเคลื่อนที่: ลูกล้อเหล็กมักจะมีความเสถียรในการเคลื่อนที่ ไม่ยุบหรือบิดเบี้ยวง่ายเมื่อใช้งานในระยะเวลานาน

จุดเด่น
- รับน้ำหนักได้มาก: เนื่องจากลูกล้อเหล็กมีความแข็งแรง ทำให้สามารถรับน้ำหนักได้มากกว่า ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องรับน้ำหนักสูง เช่น ในโรงงานอุตสาหกรรม
- อายุการใช้งานยาวนาน: ด้วยความทนทานต่อการสึกหรอและการใช้งาน ลูกล้อเหล็กมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับลูกล้อที่ทำจากวัสดุอื่น
- เหมาะกับพื้นผิวขรุขระ: ลูกล้อเหล็กสามารถเคลื่อนที่บนพื้นผิวขรุขระหรือพื้นที่ไม่เรียบได้ดี เนื่องจากมีความแข็งแรงและทนทาน
- การบำรุงรักษาน้อย: ด้วยวัสดุที่ทนทานและแข็งแรง ลูกล้อเหล็กต้องการการบำรุงรักษาน้อยเมื่อเทียบกับลูกล้อที่ทำจากวัสดุอื่น
การคำนวนน้ำหนักลูกล้อเหล็ก
ขั้นตอนการคำนวนน้ำหนักลูกล้อเหล็กแบบแป้น
การคำนวนน้ำหนักที่ลูกล้อเหล็กแบบแป้นจะต้องรับเพื่อใช้ติดตั้งกับรถเข็นสามารถทำได้โดยการพิจารณาน้ำหนักรวมที่รถเข็นต้องรับ ซึ่งรวมถึงน้ำหนักของตัวรถเข็นเองและน้ำหนักของสินค้าหรือวัตถุที่บรรทุก แล้วแบ่งน้ำหนักนั้นออกเป็นส่วน ๆ เพื่อให้เหมาะสมกับจำนวนลูกล้อที่ใช้ติดตั้ง
1.คำนวนน้ำหนักรวม (Total Weight)
- คำนวณน้ำหนักรวมของรถเข็น ซึ่งประกอบด้วยน้ำหนักของตัวรถเข็นและน้ำหนักของสินค้าที่บรรทุก
- ตัวอย่างเช่น น้ำหนักของตัวรถเข็นคือ 50 กิโลกรัม และน้ำหนักของสินค้าที่บรรทุกคือ 200 กิโลกรัม น้ำหนักรวม = 50 + 200 = 250 กิโลกรัม
2.คำนวนน้ำหนักรวม (Total Weight)
- คำนวณน้ำหนักรวมของรถเข็น ซึ่งประกอบด้วยน้ำหนักของตัวรถเข็นและน้ำหนักของสินค้าที่บรรทุก
- ตัวอย่างเช่น น้ำหนักของตัวรถเข็นคือ 50 กิโลกรัม และน้ำหนักของสินค้าที่บรรทุกคือ 200 กิโลกรัม น้ำหนักรวม = 50 + 200 = 250 กิโลกรัม
3.พิจารณาการกระจายน้ำหนัก (Weight Distribution Considerations)
- ในกรณีที่รถเข็นมีการกระจายน้ำหนักไม่เท่ากัน เช่น ถ้าน้ำหนักถูกกระจายไปที่ลูกล้อหน้า 60% และลูกล้อหลัง 40% ให้คำนวนน้ำหนักตามสัดส่วน
- ตัวอย่างเช่น หากรถเข็นมีลูกล้อหน้า 2 ตัว และลูกล้อหลัง 2 ตัว
- น้ำหนักรวมที่ลูกล้อหน้าต้องรับ = 250 กิโลกรัม × 60% = 150 กิโลกรัม
- น้ำหนักที่ลูกล้อหน้าตัวละต้องรับ = 150 กิโลกรัม ÷ 2 = 75 กิโลกรัม ต่อลูกล้อ
- น้ำหนักรวมที่ลูกล้อหลังต้องรับ = 250 กิโลกรัม × 40% = 100 กิโลกรัม
- น้ำหนักที่ลูกล้อหลังตัวละต้องรับ = 100 กิโลกรัม ÷ 2 = 50 กิโลกรัม ต่อลูกล้อ
4.เลือกใช้ลูกล้อที่เหมาะสม
- หลังจากคำนวนน้ำหนักที่ลูกล้อแต่ละตัวต้องรับแล้ว ให้เลือกใช้ลูกล้อที่มีความสามารถในการรับน้ำหนักเกินกว่าที่คำนวณได้ เพื่อความปลอดภัยและเพื่อให้ลูกล้อมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
การประยุกต์ใช้งานล้อเหล็ก
“ลูกล้อเหล็ก” มีการประยุกต์ใช้ในหลายด้านเนื่องจากความแข็งแรง ทนทาน และสามารถรับน้ำหนักได้มาก การประยุกต์ใช้ที่พบได้บ่อย มีดังนี้ :
1. อุตสาหกรรมและโรงงาน
- รถเข็นในโรงงาน : ล้อเหล็กมักถูกใช้กับรถเข็นในโรงงานหรือคลังสินค้า เนื่องจากต้องการล้อที่สามารถรับน้ำหนักได้มากและทนทานต่อการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่หนัก
- เครื่องจักรกล : ล้อเหล็กใช้ในการเคลื่อนย้ายเครื่องจักรกลหนักในโรงงานเพื่อการซ่อมบำรุงหรือปรับเปลี่ยนตำแหน่ง
- สายพานลำเลียง : ใช้ล้อเหล็กในระบบสายพานลำเลียงที่ต้องการความทนทานสูง โดยเฉพาะในกระบวนการที่ต้องมีการเคลื่อนย้ายวัสดุที่หนัก
2. การก่อสร้าง
- รถเข็นปูนหรือวัสดุก่อสร้าง : ล้อเหล็กมักใช้ในรถเข็นสำหรับการขนย้ายปูน วัสดุก่อสร้าง หรือน้ำหนักที่มาก เนื่องจากสามารถทนต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรงและรับน้ำหนักได้ดี
- การเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ก่อสร้าง : ใช้ในการขนย้ายอุปกรณ์หรือเครื่องมือที่มีน้ำหนักมากในพื้นที่ก่อสร้าง
3. การขนส่ง
- รถยกและรถลากพาเลท : ล้อเหล็กถูกใช้งานในรถยกและรถลากพาเลทที่ใช้ในคลังสินค้าหรือท่าเรือ เพื่อเคลื่อนย้ายพาเลทที่บรรทุกสินค้าหนัก
- รถบรรทุกสินค้า : ในบางกรณีใช้ล้อเหล็กในการออกแบบรถบรรทุกหรืออุปกรณ์เสริมในการขนย้ายสินค้าที่มีน้ำหนักมากและต้องการความทนทานสูง
4. ระบบรางและอุปกรณ์เคลื่อนย้าย
- รางเคลื่อนย้ายในโรงงาน : ล้อเหล็กใช้ในระบบรางเคลื่อนย้ายภายในโรงงานที่ต้องรับน้ำหนักมากและเคลื่อนที่ในระยะทางยาว
- รถรางหรือรถไฟ : ใช้ล้อเหล็กในระบบรถรางหรือรถไฟที่ต้องการความแข็งแรงและทนทานต่อการสึกหรอ
5. การใช้งานในพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมเฉพาะ
- พื้นที่ที่มีสารเคมีหรือความร้อนสูง : ล้อเหล็กสามารถทนทานต่อสารเคมีและอุณหภูมิสูง จึงเหมาะสำหรับการใช้งานในโรงงานที่มีสภาพแวดล้อมเช่นนี้
- การใช้งานในพื้นที่ขรุขระ : ล้อเหล็กเหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่ไม่เรียบหรือขรุขระ เนื่องจากมีความแข็งแรงและไม่เสี่ยงต่อการบิดงอหรือแตกหัก
ล้อเหล็กมีประโยชน์และประยุกต์ใช้ได้ในหลายอุตสาหกรรมและกิจกรรมที่ต้องการความทนทานและความสามารถในการรับน้ำหนักสูง
Reviews
There are no reviews yet.